Graphcore สตาร์ทอัพด้านชิป AI จากสหราชอาณาจักรถูก SoftBank Group เข้าซื้อกิจการ กลายเป็นบริษัทในเครือที่ SoftBank ถือหุ้นทั้งหมด แม้เงื่อนไขที่แน่ชัดของข้อตกลงนี้จะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่แหล่งข่าวในวงการประเมินว่ามูลค่าการเข้าซื้ออยู่ที่ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ Graphcore ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 และเคยถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์ หลังจากการระดมทุนรอบล่าสุดซึ่งสามารถระดมทุนได้เกือบ 700 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Graphcore ประสบปัญหาในการสร้างแรงดึงดูดทางการค้า ซึ่ง Nigel Toon ซีอีโอของบริษัทระบุว่าเป็นผลมาจากการลงทุนที่จำกัดเมื่อเทียบกับผู้นำตลาดอย่าง Nvidia

Graphcore มีชื่อเสียงจากชิปหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (IPU) และชุดซอฟต์แวร์ Poplar ของพวกเขา โดยได้พัฒนาชุดตัวเร่งความเร็ว AI สำหรับศูนย์ข้อมูลมาแล้วสามรุ่น ชิปรุ่นที่สามของบริษัทเปิดตัวในปี 2022 ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี wafer-on-wafer แบบ 3 มิติจากบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) โดยชิปนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

Toon ระบุว่าการเข้าซื้อกิจการโดย SoftBank จะช่วยให้ Graphcore มีทรัพยากรที่จำเป็นต่อการแข่งขันในระดับโลก ข้อตกลงนี้จะช่วยให้ Graphcore สามารถทำงานพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นถัดไปต่อไปได้ ขณะเดียวกันก็ขยายทีมและการดำเนินงาน โดยเฉพาะในอังกฤษ โปแลนด์ และไต้หวัน ผู้ร่วมก่อตั้ง Graphcore อย่าง Nigel Toon และ Simon Knowles จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้บริหารในตำแหน่งซีอีโอและซีทีโอตามลำดับ

ภายใต้การเข้าซื้อกิจการนี้ Graphcore ได้ถอนตัวจากการดำเนินงานในจีน เนื่องจากปัญหาที่เกิดจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ การเคลื่อนไหวนี้ทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกับ SoftBank ซึ่งรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ ๆ

Masayoshi Son ประธานและซีอีโอของ SoftBank มีเป้าหมายระยะยาวในการบรรลุปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง (Artificial Superintelligence - ASI) ซึ่งเป็นระบบที่มีความฉลาดมากกว่ามนุษย์ถึง 10,000 เท่า ขณะนี้ Graphcore เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของ SoftBank รวมถึงบริษัทในเครืออื่น ๆ เช่น Boston Dynamics และ Arm วิสัยทัศน์ของ Graphcore สอดคล้องกับพันธกิจ ASI ของ SoftBank และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ของบริษัท "The Good Computer" ที่มีพลังการประมวลผล 10 ExaFLOPS จะช่วยผลักดันแผนการนี้ให้สำเร็จ

Graphcore มีแผนที่จะพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีที่มีอยู่ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายขีดความสามารถด้าน AI การเข้าซื้อกิจการโดย SoftBank จะช่วยให้มีเงินทุนและการสนับสนุนที่จำเป็นต่อการบรรลุความก้าวหน้านี้ Toon แสดงความมั่นใจในอนาคตของบริษัทภายใต้วิสัยทัศน์ของ SoftBank สำหรับ AI และปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง