GDDR7 ปฏิวัติเทคโนโลยี ขับเคลื่อน AI, HPC และรถยนต์ที่เหนือกว่ากราฟิก พร้อมความรวดเร็วและประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ Samsung Electronics ได้เปิดตัว GDDR7 หน่วยความจำประสิทธิภาพการทำงานสูง ที่ได้ขยายขอบเขตการใช้งานจากการทำกราฟิกไปสู่โดเมนการประมวลผลที่มีความหลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และภาคยานยนต์ "G" ใน GDDR ซึ่งเดิมย่อมาจาก "Graphics Double Data Rate" แต่ ณ. ปัจจุบันกลายมาเป็นคำพ้องกับหน่วยความจำความเร็วสูงที่มีวิธีการใช้งานหลากหลาย
พีชคณิตเมทริกซ์ เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของแอปพลิเคชันกราฟิก เน้นความเข้ากันได้ระหว่าง GDDR กับ GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก) ในบริบทต่างๆ ความเข้ากันได้นี้ได้ขยายประโยชน์ของ GDDR DRAM ให้กว้างมากขึ้น โดยขยายขอบเขตการเข้าถึงไปไกลเกินกว่าพื้นฐานของกราฟิกดั้งเดิม
ขอบเขตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ที่มีแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น การออกแบบชิ้นส่วนเครื่องบิน และการสร้างแบบจำลองสภาพอากาศ ต้องใช้ความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์เป็นอย่างมาก ดังนั้น GDDR และ GPU จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ อีกทั้งการจัดตำแหน่งที่แข็งแกร่งของ GDDR กับแอปพลิเคชันกราฟิกทำให้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตวิดีโอ รวมถึงการสร้างภาพเสมือนด้วยคอมพิวเตอร์ (CGI) ในภาพยนตที่ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมจากผู้ชม เช่น "Avatar" ใช้ระบบหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ทำงานร่วมกันจนเกิดเป็นภาพอันแสนน่าทึ่งที่มีชีวิต
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ GDDR คือ ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากพร้อมกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งดึงดูดความสนใจจากกลุ่มธุรกิจด้านต่างๆ โดย Samsung คาดการณ์ว่าจะมีการนำ GDDR มาใช้เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ที่ต้องการแบนด์วิธและความเร็วในการประมวลผลที่สูงขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้ AI, การเรียนรู้ของเครื่อง, HPC และแอปพลิเคชันด้านยานยนต์ แอปพลิเคชันเหล่านี้มีขอบเขตการทำงานที่กว้าง สามารถใช้เป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) แดชบอร์ดที่มีภาพสวยงาม รวมถึงการใช้งานทั่วไปในพีซีสำหรับเล่นเกม แล็ปท็อป และคอนโซลอีกด้วย
GDDR7 ของ Samsung มาพร้อมความเร็วสูงสุดถึง 32 Gbps ซึ่งเป็นการปรับปรุงให้เหนือกว่าข้อเสนอเซิร์ฟเวอร์และ PC DRAM ที่มีอยู่ในปัจจุบัน สิ่งนี้ทำให้ GDDR กลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง DRAM ทั่วไปและ HBM (หน่วยความจำแบนด์วิธสูง) ซึ่งจะมีความเร็วมากกว่า DRAM มาตรฐาน ในราคาที่ใกล้เคียงกับคู่แข่ง และตรงตามข้อกำหนดทางเทคนิค เนื่องจากความต้องการโซลูชันแบนด์วิธสูงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง GDDR จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเลือกระดับไฮเอนด์เช่น HBM อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกแอปพลิเคชัน
แม้ว่าความต้องการ DRAM มาตรฐานจะลดลง แต่ Samsung รายงานถึงการเข้ามามีส่วนร่วมของลูกค้าที่แข็งแกร่งของ GDDR7 และมองเห็นการใช้งานที่กว้างขึ้นในแอปพลิเคชันที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
การทำซ้ำล่าสุดของ GDDR7 นำมาซึ่งการปรับปรุงที่สำคัญ รวมถึงแบนด์วิดท์ที่มีความเร็วสูงถึง 1.5 เทราไบต์ต่อวินาที (TBps) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจาก 1.1 TBps ของ GDDR6 การเพิ่มประสิทธิภาพนี้เกิดจากการนำวิธีการส่งสัญญาณแบบพัลส์แอมพลิจูดมอดูเลชั่น (PAM3) มาใช้ ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้มากขึ้น 50% ภายในรอบการส่งสัญญาณเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับสัญญาณไม่คืนกลับเป็นศูนย์ (NRZ) ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ Samsung ได้ปรับปรุงการออกแบบ GDDR7 ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 20% และเหมาะสำหรับการใช้งานที่มีข้อกำหนดการใช้พลังงานที่เข้มงวดเช่น แล็ปท็อป
Micron Technology และ Cadence ได้ประกาศแผนการเปิดตัวอุปกรณ์หน่วยความจำ GDDR7 โดยเน้นย้ำถึงความพร้อมทางเทคโนโลยีและการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตาม GDDR และ GPU มาพร้อมกับข้อจำกัดโดยธรรมชาติ โดย GPU ทำงานได้ดีในการคำนวณแมททริกซ์ แต่อาจทำงานได้ไม่ดีในงคำนวณอื่นๆ เช่น การควบคุมแขนหุ่นยนต์ด้วย GPU อาจใช้ต้นทุนสูงและประสิทธิภาพต่ำ การใช้ CPU 16 บิตแทนจึงเหมาะสมกว่า
ในโลกภาพยนตร์ปัจจุบัน GDDR และ GPU มีบทบาทแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในในฉากที่มีวิชวลเอฟเฟกต์สุดอลังการ
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม และความสามารถในการปรับตัวของเทคโนโลยีเหล่านี้