วิธีการลดการใช้พลังงานโดยการปิดส่วนต่างๆ ของ IC อย่างเลือกสรรในระหว่างการทำงาน
เทคนิคPower Gating เป็นเทคนิคสำคัญในวงจรรวมดิจิทัล (IC) สำหรับการจัดการและลดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการปิดส่วนต่าง ๆ ของ IC ในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน ทำให้ระบบสามารถประหยัดพลังงานได้ ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และลดการเกิดความร้อน
กระบวนการ Power Gating จะทำการตัดพลังงานในบางส่วนของวงจรโดยการตัดการเชื่อมต่อจากแหล่งพลังงาน เมื่อส่วนดังกล่าวไม่ได้ถูกใช้งาน การปิดการทำงานช่วยป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียพลังงานใน IC สมัยใหม่ กระแสรั่วไหลเกิดขึ้นแม้ในขณะที่อุปกรณ์อยู่ในสถานะพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทรานซิสเตอร์ที่มีขนาดเล็กใน IC ขั้นสูง Power Gating ช่วยลดการสูญเสียพลังงานนี้โดยการแยกส่วนที่ไม่ได้ใช้งานออกจากแหล่งจ่ายไฟ
มีวิธีหลักในการใช้ Power Gating สองแบบ คือ Coarse-Grained Power Gating และ Fine-Grained Power Gating โดยในส่วนของ Coarse-Grained Power Gating จะปิดการทำงานของบล็อกใหญ่ ๆ ของ IC เช่น หน่วยการทำงานหลัก ซึ่งใช้งานง่ายและช่วยประหยัดพลังงานได้มาก โดยเฉพาะในส่วนที่ไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ส่วน Fine-Grained Power Gating จะมุ่งเน้นไปที่วงจรย่อยที่เล็กกว่าในบล็อก ทำให้สามารถควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างละเอียด โดยไม่ต้องปิดการทำงานของพื้นที่หลัก เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่มีการเปิด-ปิดการใช้งานบ่อย
การใช้งาน Power Gating ต้องพิจารณาเรื่องการควบคุมเวลาและวงจรควบคุมอย่างละเอียด บล็อกที่ใช้ Power Gating ต้องใช้เซลล์เก็บข้อมูล (Retention Cells) และเซลล์แยก (Isolation Cells) เพื่อเก็บข้อมูลเมื่อปิดพลังงาน เซลล์แยกช่วยป้องกันไม่ให้สัญญาณจากบล็อกที่ไม่ได้ใช้งานรบกวนวงจรที่ยังทำงานอยู่ ส่วนเซลล์เก็บข้อมูลจะเก็บข้อมูลสำคัญเพื่อให้ระบบสามารถกลับมาทำงานได้ทันทีเมื่อเปิดพลังงานให้บล็อกนั้นอีกครั้ง
ความท้าทายหลักใน Power Gating คือการจัดการเวลาตื่นตัว (Wake-Up Time) เมื่อบล็อกถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง จำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างเสถียรก่อนที่ระบบจะทำงานได้ตามปกติ นักออกแบบวงจรพยายามลดความล่าช้านี้เพื่อลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพ อีกปัญหาคือการจัดการกับการกระชากของพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดบล็อกหลายส่วนพร้อมกัน การเปิดบล็อกแบบค่อยเป็นค่อยไปช่วยจัดการกับปัญหาการกระชากนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพใน IC
การใช้ Power Gating มีความสำคัญมากในอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับอายุแบตเตอรี่และการระบายความร้อน นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง ช่วยให้การจัดการพลังงานในโปรเซสเซอร์ขนาดใหญ่และซับซ้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้วยการออกแบบอย่างระมัดระวังและเทคนิคขั้นสูง Power Gating ใน IC ดิจิทัลช่วยให้ประหยัดพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยการปิดส่วนต่าง ๆ ของวงจรที่ไม่ได้ใช้งาน ทำให้การใช้พลังงานถูกควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาประสิทธิภาพการทำงาน Power Gating จึงเป็นเทคนิคพื้นฐานในการออกแบบดิจิทัลสมัยใหม่ ที่ช่วยผลักดันการพัฒนาในด้านการคำนวณที่ประหยัดพลังงาน